“ร.อ.ธรรมนัส” เมินหน้า “บิ๊กตู่” ย้ำคุย “บิ๊กป้อม” ผู้เดียว จนถึงไม่ยึดติดเก้าอี้รัฐมนตรี ขอยืนเคียงคู่พลเมือง ชี้อย่าดึงสถาบันมายุ่งการเมือง ไม่โกรธ “เต้ มงคลกิตติ์” ปล่อยข่าวถูกให้ออกจากตำแหน่ง
เมื่อเวลา 14.55 น. วันที่ 2 เดือนกันยายน 2564 ที่อาคารรัฐสภา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรรวมทั้งสหกรณ์ รวมทั้งเลขาธิการพรรคพลังประชากรเมือง (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวเซ็นลาออกจาก รมช.เกษตรฯ ว่า ส่วนตัวไม่เคยรู้เรื่องนี้ รวมทั้งยังมิได้สนทนาเรื่องดังที่กล่าวถึงมาแล้วกับ พล.อำเภอประวิตร วงษ์ทอง รองนายกฯรวมทั้งหัวหน้าพรรค พปชร. หรือไม่ ด้วยเหตุว่าไปธุระด้านนอกมา ส่วนในกรณีที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธาราความสนุก หัวหน้าพรรคไทยศรีสวยงามย์ โพสต์เนื้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวว่านายกรัฐมนตรีเซ็นคำสั่งปลดตนเองแล้วนั้น ส่วนตัวยังไม่เห็น รวมทั้งยังไม่เคยรู้ข่าวดังที่กล่าวถึงมาแล้ว ส่วนจะเอาผิดกับคนปล่อยข่าวดังที่กล่าวถึงมาแล้วหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “เต้เขามิได้เจตนาร้ายอะไรกับผม จะไปเอาผิดเขาได้ยังไง เรื่องนี้มีแหล่งที่มาหรือไม่ผมไม่เคยรู้ จะต้องไปถามจากเต้ว่าแสดงว่ายังไง”
ส่วนช่วงนี้ได้สนทนาทำความเข้าใจกับพล.อำเภอประยุทธ์ จันทร์อร่อย นายกฯรวมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้วหรือยัง ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า “ผมรับรองว่าผมไม่คุยกับนายกฯ แต่ว่าผมคุยกับรองนายกฯ ที่เป็นหัวหน้าพรรคผม เมื่อช่วงเวลากลางวันผมก็พึ่งจะไปรับประทานข้าวกับรองนายกฯมา”
นักข่าวก็เลยถามย้ำว่า มีความหมายว่ารอยร้าวที่คือปัญหาเรียบร้อยดีแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า “ผมรับรองว่าผมคุยกับรองนายกฯ รวมทั้งเมื่อวานนี้ผมก็ได้กล่าวไปหมดแล้ว ที่แถลงข่าวไปนั้นกระจ่างแจ้งหมดแล้ว คำตอบของผมที่ได้แถลงข่าวไปเมื่อวานนี้ (1 เดือนกันยายน) นั้นกระจ่างแจ้งทุกเรื่อง ไม่มี หลักสำคัญอะไรใหม่”
ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวว่า ตนเองมาจากพลเมือง เมื่อไปสู่การเมืองแล้วอย่าไปคิดมากสำหรับในการปกครองระบอบประชาธิปไตย ด้วยเหตุว่าพวกเราเป็นผู้แทนของพลเมืองคนประเทศไทย โดยเหตุนี้ทำอะไรจะต้องคิดถึงคุณประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเรือนรวมทั้งพลเมืองเป็นที่ตั้ง เสียงจากพลเมืองเป็นเสียงสวรรค์ ส่วนตัวคิดแค่นี้ มิได้คิดเรื่องอื่น รวมทั้งในชีวิตก็มิได้คิดจะมาเล่นการเมืองอยู่แล้ว ส่วนตัวผ่านความเป็นความตายมามากพอแล้วในชีวิต โดยเหตุนี้แนวทางที่จะก้าวไปข้างหน้ามันจะมีหลุม มีบ่อ มีเหว พวกเราก็ต้องมีความเตรียมการ
ส่วนจะมีผลต่อการโหวตในวันเสาร์ที่ 4 เดือนกันยายนนี้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่เคยรู้ เป็นสิทธิส่วนบุคคลของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ไม่อาจจะไปบังคับได้
ในตอนที่ความขัดแย้งกับพล.อำเภอประยุทธ์ นั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า มีแต่ว่ากระแสข่าว ด้วยเหตุว่ายังมิได้คุยกับนายกฯ เลย แต่ว่าในฐานะเลขาธิการพรรคพปชร.จะสะสมเสียงสนับสนุนพล.อำเภอประยุทธ์ต่อไปหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ได้พูดเสมอว่าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่หัวหน้าพรรคที่จะให้หลักการยังไง แต่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่สิทธิพิเศษ ด้วยเหตุว่าเป็นสิทธิ์ของส.ส.แต่ละคนว่าจะตัดสินใจในเรื่องเสียงในสภายังไง ไปครอบงำมิได้ เชื่อว่าส.ส.ทุกคนกว่าจะมาเป็นส.ส.ก็ผ่านอะไรมามากมาย มีทั้งองค์วิชาความรู้ ประสบการณ์ในชีวิต แต่ว่าก็เชื่อว่าวิถีชีวิตการเป็นนักการเมืองพลเมืองจะเลือกหรือไม่ในสมัยข้างหน้ามันอยู่ที่การกระทำของตัวคุณมากกว่า ว่าคุณทำงานดูแลพลเมืองของคุณหรือไม่
เมื่อถามคำถามว่าสถานการณ์ที่รุมเร้าช่วงนี้จะทำให้ร.อ.ธรรมนัส ยอมแพ้ลาออกจากการเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ผมไม่ยึดติดกับตำแหน่งงาน ซึ่งผมกล่าวคำนี้เสมอ”
นักข่าวก็เลยถามต่อว่าต่อขานในกรณีที่มีคนระบุว่า ร.อ.ธรรมนัส แอบอ้างสถาบันเพื่อเปลี่ยนนายกฯ นั้น ขออย่าไปถามเรื่องหัวข้อนี้ ด้วยเหตุว่าการเมืองจะต้องแยกให้กระจ่างแจ้ง ว่าการเมืองเป็นการเมือง อย่าดึงสถาบันลงมายุ่งกับการเมือง จะต้องรู้จักจำแนก