
เปลี่ยนเป็นประเด็นร้อนเริ่มอาทิตย์ที่คนไม่ใช่น้อยมีความสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับกรณีที่สองชายหนุ่มเพื่อนสนิท เพชร-กรุณพล เทียนทอง และ น็อต-วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์ สาดคอมเมนต์เดือดใส่กันผ่านโลกโซเชียลฯ แถมยังใช้ใจความขึ้น มึง-เรา จนถึงคนไม่ใช่น้อยอดเป็นห่วงความเกี่ยวข้องมิได้
ล่าสุดในรายการ แฉ ทางช่อง GMM25 ผู้ดำเนินรายการฝีปากกล้า มดดํา-คชาภา ตันเจริญรุ่งเรือง ก็ได้ถือโอกาสชวนทั้งคู่มาร่วมพูดคุยกันแบบซึ่งๆหน้าเกี่ยวกับประเด็นดราม่าดังที่กล่าวมาข้างต้น โดยที่ เพชร กรุณพล และ น็อต วรฤทธิ์ ได้จัดการทุกๆหัวข้อที่คนไม่ใช่น้อยยังคงเป็นห่วง รวมถึงกล่าวซ้ำความเกี่ยวข้องในฐานะ “เพื่อนฝูง” ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมานานกว่า 20 ปี ให้แฟนคลับได้พอใจว่า…
เพชร – “คือจริงๆแล้วผมกับน็อตพวกเราก็จะคุยกันหัวข้อการเมืองอยู่ในกรุ๊ปไลน์ ซึ่งจะมีพี่ลิง พี่อ๊อฟ พี่กิ๊ฟ พี่ทีน รวมทั้งพี่เอ็ม คือพวกเราก็จะคุยกันเปลี่ยนกัน และด้วยความที่รู้จักกันมาหลาย 10 ปี เวลาคุยกันตามประสาเพศชายพวกเราก็จะมีการใช้คำพูดไม่สุภาพกันนิดเดียว ขึ้นมึง ขึ้นเรา หรืออะไรอะไรก็แล้วแต่แต่พวกเราก็ไม่เคยมีอารมณ์ที่จะเก็บมาเพื่อรังควานกัน”
น็อต – “จริงๆแล้วในกลุ่มนี้พวกเราคุยกันทุกเรื่องครับ เรื่องพวกพ้อง เรื่องในวงการ เรื่องต่างๆนานา คุยกันทุกเรื่องอยู่แล้ว รวมทั้งเปลี่ยนข้อคิดเห็นกันคือเรื่องธรรดา”
ประเด็นที่มีปัญหากันคือเรื่องวัคซีน ?
น็อต – “หลักๆผมได้ไปอ่านมาจากผู้อื่น และผมก็โพสต์เพื่อเก็บไว้อ่านเพราะมันยาว ยังไม่มีเวลาอ่าน ต่อนี้ไปเพชรมันมาอ่านก่อน มันก็เลยมาเขียนๆของมัน แต่ด้วยความที่พวกเราเป็นเพื่อนกันสนิทกันและผมยังมิได้อ่านที่เพชรมันเขียนหรอก ผมก็เลยตอบมันไปว่า ‘เรื่องของมึง’ คือเป็นการที่เพื่อนคุยกัน”
เพชร – “เพชรมีความรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องของตัวอักษรด้วยนะครับ ซึ่งมันไม่สามารถที่จะสื่ออารมณ์ได้ว่าแต่ละคนมีความรู้สึกเช่นไรกับคำบอกเล่านั้น และคำบอกเล่ามันก็เป็นคำบอกเล่าที่คุยกันแบบมีคำพูดไม่สุภาพ ขึ้นมึง ขึ้นเรา หรือมีคำว่าเสื-ก ซึ่งหากเป็นเพื่อนเพศชายคุยกันมันคือเรื่องธรรดา แต่พอเพียงมันเปลี่ยนเป็นคนที่มิได้ทราบดีว่าพวกเรารู้จักกันขนาดไหน สนิทกันขนาดไหน หรือใช้คำบอกเล่ายังไง ซึ่งมันไม่ผิดที่คนจะแปลความและสื่อไปในแนวนั้นได้ ยิ่งมันเป็นกระแสที่คนมีความรู้สึกกลุ้มอกกลุ้มใจเกี่ยวกับวัคซีนด้วย”
วันนี้พวกเราอยากจะบอกอะไรถึงสิ่งที่พวกเราสื่อสาร ?
น็อต – “ข้อที่ 1หมายถึงเฟซบุ๊กที่ผมเล่น ผมตั้งพนาเวท ก็คือปิดเป็นส่วนตัวอยู่แล้ว และผมก็เอาไว้มองเพื่อนพ้องที่รู้จักกันซึ่งมีไม่มากมาย สาระสำคัญคือผมกับเพชรพวกเรารู้จักกันมานานมาก และพวกเราก็พูดจากันอย่างงี้ แบบเพื่อนสนิทกัน พูดกันได้ทุกเรื่อง ซึ่งพวกเราก็ยอมรับซึ่งกันและกันอยู่แล้ว ไม่มีผู้ใดโกรธ ไม่มีผู้ใดเกลียดชังกัน และสำคัญที่สุดเดี๋ยวนี้คือ พวกเรากำลังอยู่ในการสู้รบที่ต่อสู้กับเชื้อไวรัส ศัตรูของพวกเราคือไวรัส ไม่ใช่พวกเราคุ้นเคย ด้วยเหตุผลดังกล่าวในวันนี้มันไม่ใช่ว่าพวกเราต้องมามีความเห็นที่ไม่เหมือนกัน มีข้อมูลที่ไม่เหมือนกัน แล้วต้องมาตีกันให้ตาย ด้วยเหตุว่าสิ่งที่พวกเราต้องเอาชนะคือไวรัสโควิด ที่ปรารถนาความร่วมแรงร่วมใจจากทุกคน มนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ ไม่ใช่เฉพาะเมืองไทย มนุษย์ทุกคนบนนี้ควรต้องด้วยกัน ทำยังไงก็ได้ให้ไวรัสมันไม่ใช้พวกเราเป็นวัสดุ เป็นพาหะสำหรับการส่งต่อไวรัสไปถึงผู้อื่น นี่คือสิ่งที่พวกเราต้องร่วมมือกัน ไม่ว่าใครจะมีข้อมูลใดๆก็ตาม เอามาแชร์กัน เอามาคุยกันอย่างสร้างสรรค์ ช่วยกันหาทางออกให้กับมนุษยชาติทุกคนบนโลกใบนี้”
เพชร – “คือบทความนั้นน็อตเขามิได้เขียนนะ แต่น็อตแชร์มา คนที่เขียนเขาเขียนประมาณว่า ‘ไวรัสเชื้อตาย เป็นไวรัสที่ปลอดภัย ส่วน mRNA เป็นไวรัสใหม่ที่ยังไม่เป็นผลการทดสอบ รวมทั้งอาจจะทำให้ DNA ของพวกเรามีการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งอาจจะทำให้พวกเราเปลี่ยนเป็นซอมบี้’ ซึ่งมันเกิดเรื่องที่คนไม่ใช่น้อยได้ยินมา แต่มันยังไม่มีบทพิสูจน์ และสำหรับผมนะ ผมรู้สึกว่าการที่เขาเขียนประมาณว่า ‘การมีวัคซีนนานาประการมันไม่ดี ด้วยเหตุว่ามันจะก่อให้กำเนิดค่าใช้สอยของรัฐบาล ทำให้มีต้นทุนสำหรับการรักษาอะไรต่างๆนานา’ ซึ่งผมก็มองเห็นต่าง ด้วยเหตุว่าผมมองว่าการที่พวกเรามีวัคซีนนานาประการมันก็สามารถใช้กับคนที่ไม่เหมือนกัน ทั้งยังในช่วงอายุ ทั้งยังในเรื่องสุขภาพ ทั้งยังในหัวข้อการใช้งาน และวัคซีนมันก็สามารถยับยั้งการได้รับเชื้อก้าวหน้า และมันก็มีบททดลองมาแล้ว และความเป็นจริงที่พวกเรามองเห็นอยู่ว่า วัคซีนสิโนแวค สำหรับการฉีดก็ไม่อาจจะป้องกันให้พวกเราไม่มีอันตรายได้ แต่ทำให้พวกเราไม่มีอาการหนักจนกระทั่งแก่ชีวิตได้มากขึ้น”
น็อต – “อย่างที่บอก ผมแชร์เอาไว้เพื่ออ่านเรียนของตัวเองในพื้นที่ของตัวเอง เพชรก็มีข้อมูลของเพชร เพชรก็เข้ามาให้ข้อมูลของเพชรในพื้นที่ของผมแค่นั้น ผมก็บอก อ้าว! นั่นเป็นเรื่องของมึง เพื่อนฝูงกันผมก็บอก เรื่องของมึงไว้ก่อน เดี๋ยวผมขออ่านให้เป็นระเบียบเรียบร้อยก่อน ขออ่านให้จบก่อน และสุดท้ายผมก็ขอบคุณข้อมูลของเขาที่เขาส่งมาให้”
เพชร – “ใช่ๆและสุดท้ายน็อตก็พิมพ์คำว่ ขอบคุณ ซึ่งหากมองเห็นคนใดกันที่เข้าไปแรกๆก็จะมีความคิดเห็นว่าผมเข้าไปกดหัวหัวใจให้เขา ซึ่งทุกครั้งที่ผมได้อ่านใจความไม่ว่าจะของไม่ว่าใครก็ตาม ผมก็จะมาร์กไว้ว่าใจความนี้ผมได้อ่านแล้วได้ตอบแล้วด้วยรูปหัวใจ และมันก็ผ่านมาประมาณ 5-6 วันแล้วด้วย รวมทั้งมีคนมาแชร์ ซึ่งเพชรก็รู้สึกว่ามันบางครั้งอาจจะเนื่องแต่ความศรัทธาทางด้านการเมืองที่ไม่เหมือนกันระหว่างเพชรกับน็อต รวมทั้งในระยะเวลานี้กระแสการเมืองมันก็เปลี่ยนแปลงออกจะไว คนก็รู้สึกว่ามีความกดดันกับเหตุการณ์ชาติบ้านเมืองที่มันควรต้องดีมากยิ่งกว่านี้แต่พวกเรายังไม่เห็นแสงสว่าง มันเลยทำให้มีความรู้สึกว่าไม่ว่าใครก็ตามที่ได้รับข้อมูลไม่ครบ หรือแชร์ข้อมูลที่ไม่ครบ ควรต้องออกมารับผิดชอบ”
“และอีกอย่างหนึ่งเดี๋ยวนี้ก็เป็นกระแสเกี่ยวกับคนที่เคยออกมาม็อบในสมัยเก่า ว่าควรรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นในในตอนนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะบอกทุกคนว่า ไม่มีผู้ใดไม่ถูกหรอกในวันนี้ น็อตสามารถคิดอย่างงี้ก็ได้ เพชรสามารถคิดอย่างงี้ก็ได้ แจ็คสามารถคิดอย่างงี้ก็ได้ หรือคุณผู้คุณดูก็เหมือนกัน”
ณ วันนี้คุณน็อตไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแล้ว ?
น็อต – “สิ่งที่ผมโพสต์มันมิได้เกี่ยวอะไรกับการเมืองเลย มันเกี่ยวข้องกับความรู้ที่ผมอยากจะเรียนก่อน ว่าจริงๆแล้ววัคซีนทั้งสิ้นที่พวกเรามีในโลกใบนี้อะไรที่มันพอเพียงจะช่วยกันได้บ้าง เป็นความรู้ที่ผมอยากจะแชร์เอาไว้อ่านเอง เท่านั้นเอง เหตุผลมีเท่านั้นเอง รวมทั้งมิได้เกี่ยวกับการเมืองด้วย เกี่ยวข้องกับความรู้ทางด้านวัคซีนเท่านั้นเอง มิได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอะไรก็แล้วแต่เลย ด้วยเหตุผลดังกล่าวอย่าเอามาโยงหัวข้อการเมือง มิได้เกี่ยวอะไร ในเฟซผมก็มิได้เกี่ยวกับการเมืองทั้งปวง”
เดี๋ยวนี้คนมองว่าเป็นการสู้รบระหว่างเพื่อนฝูง ?
เพชร – “คือก็มีบางใจความของน็อตที่ผมไม่สบอารมณ์ แต่ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ในเมื่อพวกเราตั้งมั่นในหลักประชาธิปไตย ทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงที่จะสามารถอธิบาย หรือเสนอแนวคิดความศรัทธาของตัวเองได้ แม้จะผิดหัวใจพวกเราก็จำเป็นที่จะต้องยอมรับฟัง ด้วยเหตุว่าหากพวกเรากล่าวว่า พวกเราอยู่ฝั่งประชาธิปไตย ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะให้ความคิดเห็น ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะทำการใดๆที่จะไปล่วงละเมิดสิทธิ์ของคนอื่น และไม่ไปฝ่าฝืนกฎหมายของประเทศ ผมมั่นใจว่าวันนี้การที่ผมมายืนอยู่ตรงนี้ มาบอกว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยก็บางครั้งอาจจะไม่สบอารมณ์ผมเหมือนกัน ซึ่งผมก็ต้องขอโทษจริง”
“ผมอยากจะกล่าวว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่คิดต่างกับพวกเรา ไม่ว่าใครก็ตามที่เคยมีอดีตกาลอันชั่วร้ายซึ่งพวกเราไม่เคยถูกใจ การดุด่า หรือการดันเขาออกไปจากทางของพวกเรามันมิได้ช่วยปรับให้การบรรลุผลของพวกเราที่พวกเราตั้งมั่นไว้มันกำเนิดเร็วขึ้น มันกลายเป็นว่าทำให้พวกเรานั้นสร้างศัตรู ที่บางครั้งอาจจะเป็นศัตรูตัวเล็ก และเปลี่ยนเป็นเปลี่ยนเป็นศัตรูตัวใหญ่ขึ้น และมีความแค้นที่มากขึ้น ซึ่งนั่นจะก่อให้จุดหมายที่พวกเราจะก้าวเดินไปมันถูกฉุดรั้ง โดยเหตุนี้ไม่ว่าใครก็ตามที่มีความเห็นที่ไม่เหมือนกันกับพวกเรา พวกเราให้ความรู้ความเข้าใจเขา ให้ข้อมูลเขา มาเปลี่ยนกันข้อมูลของพวกเรากับข้อมูลของเขามันไม่เหมือนกันเช่นไร และทำให้เขารู้เรื่องในทางของพวกเรา ด้วยเหตุว่าผมมั่นใจว่าการขับเคลื่อนให้ประเทศนี้ให้มันไปต่อข้างหน้าได้ มันจำเป็นที่จะต้องใช้มวลชนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน ไม่ว่าความคิดใด ผมมั่นใจว่าทุกคนอยากให้ประเทศนี้ดีทั้งหมดแหละ”
“พวกเราควรเดินไปร่วมกันด้วยความเข้าใจ อย่าเดินไปด้วยความแค้น ทางมันมีหลายทางในการที่จะไปยอดดอย แต่หากเขาจะเลือกทางนั้นพวกเราก็ต้องปลดปล่อยเขา ส่วนพวกเราเลือกทางนี้พวกเราก็ต้องตั้งมั่นในทางของพวกเรา บากบั่นรู้เรื่องเขารู้เรื่องพวกเรา อย่าทำเสมือนที่พวกเราไม่ต้องการให้คนใดกันมาทำกับพวกเรานะครับ”
สุดท้ายพวกเรามีอะไรอยากจะบอกกับคนดูหรือคนที่ติดตามข่าวไหม ?
น็อต – “ยังไงพวกเราก็คนไทยร่วมกัน ไม่ว่าคุณจะมาด่าว่าผมด้วยความที่คุณไม่สบอารมณ์ในสิ่งที่ผมโพสต์ไปหรือใดๆก็ตาม มันมิได้ทำให้อะไรดีขึ้นหรอกนะครับ ทุกสิ่งทุกอย่างมันจะดีขึ้นได้ก็เมื่อตัวเราเองที่จะรู้เรื่องโรคจริงๆและอยู่กับมันให้ได้จริงๆอย่างที่ผมบอกศัตรูของพวกเราไม่ใช่พวกเราคุ้นเคย แต่ศัตรูของพวกเรามันคือโควิด พวกเราต้องเอาชนะมันให้ได้ก่อน เอาชนะมันให้ได้ด้วยการร่วมแรงร่วมใจกันของทุกคนบนโลกใบนี้ เป็นกำลังหัวใจให้ทุกคนนะครับ”