
เมื่อวันที่ 26 ก.ย. นายสุวจนะ รอดเรืองในหนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าฯจังหวัดปทุมธานี มีหนังสือ แจ้งนายกอบจ.และก็ ผู้อำนวยการทุกอำเภอ บอกว่า
ด้วยกองอำนวยการคุ้มครองปกป้องและก็บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปทุมธานี ได้รับแจ้งจากกรมชลประทาน ว่าที่ผ่านมามีฝนตกสะสม ต่อเนื่องรอบๆเมืองไทยตอนบน และก็กรมอุตุนิยมวิทยาคาดเดาว่า ในช่วงวันที่ 26 – 30 ก.ย. 2564 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงไปพิงผ่านภาคกลางตอนล่าง ทําให้ยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่รอบๆภาคกลาง และก็ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรามากขึ้น
โดยคาดเดาปริมาณน้ำไหลผ่าน สถานีวัดน้ำจังหวัดนครสวรรค์ ราวๆ 2,400 – 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งกรมชลประทาน ได้ใช้การบริหารจัดการน้ำ และตัดยอดน้ำเข้าพื้นที่ลุ่มต่ำทั้งคู่ฝั่ง แม้กระนั้นยังคงจําเป็นจะต้องปรับเพิ่มปริมาณน้ำ ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ระหว่าง 2,000 – 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะค่อยๆทยอยเพิ่มการระบายน้ำเป็นลําดับ ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นจากเดี๋ยวนี้ราวๆ 0.30 – 1.00 เมตร ในช่วงวันที่ 26 – 29 ก.ย. 2564
ปภ.จังหวัดปทุมธานี พิจารณาแล้วเพื่อเป็นการตระเตรียม ความพร้อมเพรียงรับสถานการณ์ดังที่กล่าวมาข้างต้น ขอให้ท่านดําเนินการ ดังต่อไปนี้
1.) โปรโมทแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เกษตรกร ที่เลี้ยงชีพประมง เพาะปลูก หรือเลี้ยงสัตว์รอบๆริมแม่น้ําเจ้าพระยา บริษัทห้างร้าน ที่ประกอบกิจการ ในแม่น้ำเจ้าพระยา ดังเช่นว่า งานก่อสร้างเขื่อนคุ้มครองปกป้องริมฝั่ง แพร้านอาหาร ฯลฯ ร่วมอีกทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทราบถึงสถานการณ์น้ำเดี๋ยวนี้ และก็ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
2.) กําชับผู้อํานวยการท้องถิ่นในพื้นที่ให้เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ข้อมูลข่าวสารตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะพื้นที่ที่น้ำตอนบนไหลผ่าน (น้ำเหนือ) และก็มีฝนตกสะสม พร้อมทั้งผสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่ เกี่ยวในพื้นที่เตรียมตัว กําลังพล สิ่งของ เครื่องใช้ไม้สอย เครื่องจักร และก็ยานพาหนะ ให้พร้อมปฏิบัติงาน อํานวยความสบาย และก็ให้ความช่วยเหลือประชาชน ตลอด 24 ชั่วโมง
3.) ถ้าหากเกิดสาธารณภัยขึ้นในพื้นที่ให้รายงานสถานการณ์ และก็การให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น ให้กองอํานวยการคุ้มครองปกป้องและก็บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดทราบทันที่ เบอร์โทร 02-581-3120
4.) ให้แจ้งผู้อํานวยการองค์มือปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ทราบ และก็ถือปฏิบัติ