เลสเตอร์ ซิตี้ โชว์ผลงานคัมแบ็กกลับมาคว้าชัยได้สำเร็จข้างหลังสกอร์ตามหลัง คริสตัล พาเลซ 0-1 ก่อนช่วงหลังมารัวสองประตูกลับแซงกลับมาเอาชนะ 2-1 นัดหมายนี้ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ สวมบทบาทวีรบุรุษอีกทั้งจ่ายให้ ติเตียนโมธี ค้างสตาญ ซัดไล่เจ๊าก่อนที่เจ้าตัวจะซัดประตูชัยให้ทีมเก็บสามแต้มสำคัญ ยึดอันดับ 3 ถัดไปโดยมี 62 คะแนน ทิ้งสิงห์บลูส์อันดับสี่ 4 คะแนน ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันจันทร์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา
ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมตช์เดย์ที่ 33 เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 26 เมษายนก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา เจ้าบ้าน เลสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 3 ฟอร์มในลีกล่าสุดไลอัด เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 3-0 นัดหมายนี้ยังได้เล่นใน คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ คริสตัล พาเลซ อันดับ 13 ซึ่งไม่ชนะมาสองเกมติด ล่าสุดพ่ายแพ้เหลวให้ เชลซี คาบ้าน 1-4
เบรนดินแดน ร็อดพบร์ส นายใหญ่ของ “จิ้งจอกไทย” ต้องเก็บชัยให้ได้เพื่อหนี “สิงห์บลูส์” อันดับ 4 ที่ไล่จี๋มาเหลือแต้มเดียว เกมนี้สภาพทีมค่อนข้างจะพร้อม เจมี่ วาร์ดี้ ยืนล่าตาข่ายกับ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ที่กำลังร้อนแรง โดยมี เจมส์ แมดดิสัน ปั้นเกมอยู่ข้างหลัง
ส่วน “ดิ อีเกิ้ลส์” ของ รอย ฮ็อดจ์สัน ฟอร์มในลีกไม่ดีเท่าไรนัก 5 นัดหมายล่าสุดชนะแค่เกมเดียว เกมนี้ฝากความมุ่งหวังไล่ล่าประตูไว้ที่ คริสติเตียนย็อง เบนเตเก้ และวิลฟรีด ซาฮา
เริ่มเกมครึ่งแรก เป็นฝั่ง “จิ้งจอกไทย” ที่เปิดเกมรุกเข้าใส่ นาทีที่ 10 ติเตียนโมธี ค้างสตาญ ครอสมาหน้าประตู เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ พากเพียรเล่นบอลแต่ว่าเลยไปถึง เจมี่ วาร์ดี้ วิ่งมาซัดด้วยขวาสุดแรงบอลพุ่งหลุดกรอบไปแบบได้เสียว
แต่ทว่า นาที 12 แปลงเป็น คริสตัล พาเลซ ที่สวนขึ้นมาแล้วได้ทางออกนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ คริสติเตียนย็อง เบนเตเก้ เข้าไปแย่งบอลจากข้างหลังของ ตีเลมันน์ ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไรปลดปล่อยให้เล่นต่อ บอลมาถึง เอเบเรชี่ เอเซ่ พาบอลขึ้นมาก่อนแทงทะลุช่องให้ วิลฟรีด ซาฮา หลุดกับล้ำหน้าเข้าไปซัดด้วยขวาติดปลายมือ ค้างสเปอร์ ชไมเคิ่ล เข้าประเหม็นตุไป
นาที 19 ยูริ ตีเลมันส์ เรียกฟรีคิกได้นอกกรอบข้างหลังโดน ไยโร รีเดอวัลด์ ทำฟาวล์ก่อนโดนใบเหลืองแรกของเกม และเป็น ตีเลมันน์ ที่ปั่นข้ามกำแพงแต่ว่าบอลยังค่อยไปเข้ามือ บิเซนเต้ แกว่งไกวต้า
บอลค่อนข้างจะทันกัน เจ้าถิ่น เลสเตอร์ โอกาสเข้าทำยังมีไม่มาก นาที 34 ซากลาร์ โซยุนยก เก็บตกจากลูกคอนเนอร์ก่อนจะอัดด้วยขวาแต่ว่าบอลยังสูงโผบินโด่งออกไป
นาที 38 กองทัพจิ้งจอกได้บอลหลุดขึ้นมาทางด้านซ้าย แมดดิสัน ตวัดจากเส้นข้างหลังมาให้ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ แต่ว่าบอลย้อนหลังทำให้ต้องจิ้มคืนให้ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ วิ่งมาแปอัดเข้าไปบอลพุ่งตรงกรอบแบบได้ลุ้นแต่ว่ายังไม่ผ่าน แพทริค ฟาน อานโฮลท์ ที่บล็อคไว้เป็นคนท้ายที่สุด
ตอนทดเจ็บ นาที 45+1 จอนนี่ อีแวนส์ วางบอลยาวให้ เจมส์ แมดดิสัน หลุดเข้าไปซัดมุมแคบแต่ว่ายิงไม่ดีบอลผ่านหน้าปากประตูไป ก่อนผู้ตัดสินจะเช็กสัญญาณจากห้อง วีเออาร์ ถึงความเป็นไปได้ที่เจ้าถิ่นจะได้จุดลูกโทษ จากจังหวะที่ โจเอล วอร์ด มีการปะทะกับ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ ในกรอบจุดโทษแต่ว่าไม่มีอะไรรับรองไม่เป็นจุดลูกโทษ
จบครึ่งแรก เลสเตอร์ ซิตี้ ตามหลัง คริสตัล พาเลซ 0-1
ช่วงหลัง แค่นาคราวที่ 50 “จิ้งจอกไทย” มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 สำเร็จ จากจังหวะเซ็ตบอลมาจากดินแดนข้างหลังให้ ยูริ ตีเลมันน์ ตักบอลเข้าไปในจุดโทษถึง อิเฮียนาโช่ ก่อนจ่ายคืนข้างหลังให้ ติเตียนโมธี ค้างสตาญ เพิ่มมซัดด้วยซ้ายแทงตาข่ายเข้าไปอย่างงดงาม แม้วีเออาร์จะเช็กความเป็นไปได้ที่ อิเฮียนาโช่ จะทำแฮนด์บอลก่อนแต่ว่ารับรองให้ประตู
นาที 55 พาเลซ ทิ้งโอกาสทองที่จะขึ้นนำอีกรอบข้างหลัง เอเบเรชี่ เอเซ่ พนันบอลให้ ไยโร รีเดอวัลด์ หลุดกับล้ำหน้าเข้าไปดวลคนเดียวกับ ชไมเคิ่ล แต่ว่าวินิจฉัยจ่ายให้ คริสติเตียนย็อง เบนเตเก้ ที่กำลังง้างเท้ายิง แต่ทว่าโดน จอนนี่ อีแวนส์ ที่วิ่งตามมาพุ่งสไลด์สกัดบอลรอดอันตรายประเภทเฉียด
นาที 64 ลุค โธมัส จ่ายให้ เจมี่ วาร์ดี้ เลี้ยงประหลาดรับพาเลซเข้าไปอัดด้วยขวามุมแคบแต่ว่าบอลยังไม่ผ่าน บิเซนเต้ แกว่งไกวต้า ปิดมุมรับไว้ได้
อีก 5 นาทีถัดมา “ดิ อีเกิ้ลส์” ได้ลุ้นเช่นกัน บอลสม่ำเสมอจากลูกเตะมุมเอเบเรชี่ เอเซ่ เปิดบอลแม่นมาให้ คริสติเตียนย็อง เบนเตเก้ สลัดตัวตามติดขึ้นโขกคนเดียวๆแต่ว่ายังไปตรงตัว ค้างสเปอร์ ชไมเคิ่ล รับไว้ได้
นาที 70 “เดอะ ฟ็อกซ์” ชวดได้ประตูแซงขึ้นนำข้างหลัง แมดดิสัน จ่ายให้ ฮิเฮียนาโช่ พากเพียรกลับตัวยิงแต่ว่าบอลปลิ้นไปเข้าทาง เจมี่ วาร์ดี้ ซัดบอลเข้าไป แต่ทว่าผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าของ วาร์ดี้ ไปก่อนแล้ว
นาที 78 เลสเตอร์ ทิ้งโอกาสทองขึ้นนำอีกรอบ ข้างหลัง วาร์ดี้ เล่นชิ่งกับ อิเฮียนาโช่ บอลหลุดมาถึง วาร์ดี้ อีกรอบเกี่ยวเข้าไปซัดเสาแรกบอลพุ่งผ่านหน้าปากทางออกไปอย่างน่าเสียดาย
ลูกทีมของ เบรนดินแดน ร็อดพบร์ส ยังโหมบุกอย่างมาก อีกนาทีถัดมา อิเฮียนาโช่ ที่วันนี้เล่นได้สะดุดตาเก็บบอลได้ก่อนจ่ายคืนให้ ยูริ ตีเลมันส์ วิ่งมาซัดหลุดเสาออกไป
กระนั้น นาที 80 เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ มาออกฤทธิ์ออกเดชจนได้ข้างหลังวิ่งไปเก็บบอลวางยาวของ จอนนี่ อีแวนส์ ก่อนลากตัดเข้าไปซัดสุดแรงบอลพุ่งแทงใต้คานเข้าไปอย่างงามเวอร์ ประเภทที่ บิเซนเต้ แกว่งไกวต้า ได้แต่ว่ายืนมองดู เป็นประตูที่ 10 ของหัวหอกชาวไนจีเรี่ยนในช่วงฤดูกาลนี้ และเป็นประตูที่ 12 ใน 9 นัดหมายล่าสุดรวมทุกรายการ
จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ กลับแซงกลับมาเอาชนะ คริสตัล พาเลซ 2-1 ซิวสามแต้มพร้อมยึดอันดับ 3 ถัดไป โดยมี 62 คะแนน หนีอันดับ 4 เชลซี ไป 4 คะแนน ส่วน พาเลซ ยังอยู่อันดับ 13 อย่างเดิมมีแค่ 38 แต้ม
รายนามผู้เล่นทั้งสองทีม
เลสเตอร์ (3-4-1-2) : ค้างสเปอร์ ชไมเคิ่ล – เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, จอนนี่ อีแวนส์, ซากลาร์ โซยุนยก – ติเตียนโมธี ค้างสตาญ, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, ยูริ ตีเลมันส์, ลุค โธมัส (มาร์ค อัลไบรท์ตัน น.70) – เจมส์ แมดดิสัน (อาโยเซ่ เปเรซ น.70) – เคเลชี่ อิเฮียนาโช่, เจมี่ วาร์ดี้
ผู้จัดการทีม : เบรนดินแดน ร็อดพบร์ส
คริสตัล พาเลซ (4-4-2) : บิเซนเต้ แกว่งไกวต้า – โจเอล วอร์ด, เชกู ข้ายาเต้, สกอตต์ ดินแดนน์, แพทริค ฟาน อานโฮลท์ – จอร์แดน อายิว (แอนดรอส ทาวน์เซนด์ น.78), ลูก้า มิลิโอ้อวดเยวิช (เจมส์ แม็คาร์ธี่ น.83), ไยโร รีเดอวัลด์ (เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ น.85), เอเบเรชี่ เอเซ่ – คริสติเตียนย็อง เบนเตเก้, วิลฟรีด ซาฮา
ผู้จัดการทีม : รอย ฮ็อดจ์สัน
ผู้ตัดสิน : เกรแฮม สกอตต์