
“สามศุลี” รองพิธีกรประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจงเพราะเหตุใด “ผ้าอนามัยแบบสอด” เป็นเครื่องแต่งตัว ยันไม่ขึ้นภาษี เพราะว่าเป็นสินค้าควบคุม
จากกรณี ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่กฎกระทรวงป้ายประกาศให้ผ้าอนามัยแบบสอด เป็นเครื่องแต่งตัว นางสาวสามศุลี สามสรณกุล รองพิธีกรประจำนร ได้โพสต์เนื้อความชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก โดยยืนยันว่า ผ้าอนามัยเป็นสินค้าควบคุม ไม่ขึ้นภาษี
พร้อมชี้แจงเพิ่มอีกว่า 1.ปัจจุบันมีผ้าอนามัย 2 จำพวก คือ ผ้าอนามัยใช้ด้านนอก แล้วก็จำพวกสอด ทั้ง 2 จำพวกถูกจัดเป็นเครื่องแต่งตัวตั้งแต่ปี 2528 เพราะเหตุว่าเข้ากับนิยามเครื่องแต่งตัวคือ วัตถุที่ปรารถนาสำหรับใช้ทา ถู นวด โรย พ่น หยอด ใส่ อบ หรือกระทำด้วยวิธีอื่นใดต่อส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายเพื่อความสะอาด ฯลฯ
2.ปี 2558 มีการปรับปรุงแก้ไข พระราชบัญญัติเครื่องแต่งตัวใหม่ มีการปรับปรุงแก้ไขนิยามของคำว่า “เครื่องแต่งตัว” ทำให้ “ผ้าอนามัยจำพวกสอด” หลุดจากคำจำกัดความของเครื่องแต่งตัว แต่ผ้าอนามัยใช้ด้านนอก ยังเป็นเครื่องแต่งตัว
3.จึงเป็นเหตุผลให้จำเป็นต้องออกกฎกระทรวงกำหนดให้ผ้าอนามัยจำพวกสอดเป็นเครื่องแต่งตัว
4.ผ้าอนามัย เป็น 1 ใน รายการสินค้าควบคุมของกระทรวงพาณิชย์ ไม่มีการจัดเก็บภาษีผ้าอนามัยในอัตราภาษีของสิ้นเปลืองถึง 40% ภาษีผ้าอนามัยจึงจะถูกจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ตามราคาของสินค้าเสมือนสินค้าจำพวกอื่นๆ
แต่ ประเด็นนี้เปลี่ยนเป็นข้อความสำคัญร้อนในโลกออนไลน์ เพราะว่าหลายท่านสงสัยว่า เพราะเหตุใด “ผ้าอนามัยแบบสอด” ถึงเปลี่ยนเป็นเครื่องแต่งตัวได้ พร้อมด้วยติดแฮชแท็กความเห็น #ผ้าอนามัยไม่มีภาษี จนถึงขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ เพราะว่าถ้าเข้าไปใส่ความหมายของคำว่า เครื่องแต่งตัวในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตสถาน พ.ศ.2554 คำว่า “เครื่องแต่งตัว” เป็นคำนาม คือ สิ่งเสริมแต่งหรือบำรุงบริเวณใบหน้า ผิวพรรณ ผม ฯลฯ ให้ดูสวย ยกตัวอย่างเช่น แป้ง ลิปสติก ดินสอเขียนขนคิ้ว, ราชาศัพท์ว่า เครื่องพระสำอาง
อีกความหมาย คือ (กฎ) วัตถุที่ปรารถนาสำหรับใช้ทา ถู นวด โรย พ่น หยอด ใส่ อบ หรือกระทำด้วยวิธีอื่นใดต่อส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย เพื่อความสะอาด ความงาม หรือช่วยเหลือให้สวยงาม แล้วก็รวมตลอดทั้งเครื่องทำความสะอาดผิวต่างๆด้วย.