PROS มั่นใจเข้าเทรดใน mai วันแรก 27 เม.ย.นี้ ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน หนุนราคาเหนือจอง พร้อมตุนงานในมือไว้ล็อตใหญ่มากยิ่งกว่า 2 พันล้านบาท แถมความสามารถในการทำเงินสุดแจ่มหลังปี 63 กำไรกระโดดถึง 86% จากปีกลาย หวังนำเงินที่ได้จากการระดมทุนคราวนี้ช่วยหนุนการเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดด ด้านผู้บริหารย้ำความมั่นใจและความเชื่อมั่น กอดหุ้นไว้ในมือแน่นไม่ขาย
นายเหล่ากอเทพ รัตนแสงสว่างสรวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรอสเพอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PROS เผยออกมาว่า บริษัทมั่นใจว่าการเข้าจำหน่ายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันแรกจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน รวมทั้งพร้อมเดินหน้าขยายกิจการตลอด ด้วยความพร้อมทางด้านเจ้าหน้าที่รวมทั้งระบบการทำงานเพื่อขยายกิจการรวมทั้งโอกาสในการเข้าประมูลงานใหม่ๆรวมทั้งส่งเสริมความสามารถในการสร้างรายได้รวมทั้งกำไร รวมถึงอัตราผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นในบริษัทให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จากประสบการณ์ในด้านที่เกี่ยวกับการทำงานในโครงงานของหน่วยงานภาครัฐที่มากยิ่งขึ้น ประกอบกับแผนการภาครัฐที่ย้ำการลงทุนในระบบสาธารณูปโภคต่างๆโดยเฉพาะในด้านกำลังไฟฟ้า,ขนส่งมวลชน รวมทั้งติดต่อโทรคมนาคม ก็เลยทำให้กรุ๊ปบริษัทได้โอกาสในการเข้าไปขยายงานในส่วนของงานภาครัฐ จากปัจจุบันนี้มีสัดส่วนออกจะน้อยหรือสิ้นปีคาดอยู่ที่ราวๆ 20% ซึ่งคาดจะเพิ่มเป็น 50% ในอนาคต
เวลาที่งานภาคเอกชนที่บริษัทมีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว จากผลงานเป็นที่ยอมรับจากผู้ประกอบกิจการที่มีชื่อในอุตสาหกรรมต่างๆได้แก่ เทสโก้เก๋ โลตัส บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) รวมทั้งกรุ๊ป ปตท.ฯลฯ ซึ่งบริษัทกลุ่มนี้มีการขยายการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“บริษัทมีการกระจายการเสี่ยงลูกค้าให้มีความหลากหลาย รวมทั้งขยายงานไปยังกรุ๊ปงานภาครัฐมากยิ่งขึ้น รวมทั้งก่อนหน้าที่ผ่านมาบริษัทฯ ใช้ยุทธวิธีด้านการขาย เพื่อดูแลลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทชั้นแนวหน้าอย่างมีคุณภาพ ทำให้กรุ๊ปลูกค้าโดยมากจะเป็นลูกค้าเกรด A ที่มีฐานะทางการเงินดี รวมทั้งทำให้พวกเราไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน รวมทั้งเป็นบริษัทที่แทบจะไม่มีหนี้ นอกนั้นบริษัทมีความตั้งใจดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นแนวหน้าของประเทศ ซึ่งเรื่องราวผลงานรวมทั้งลูกค้าในอดีตกาลเป็นเครื่องประกัน รวมทั้งทำให้ลูกค้ากรุ๊ปใหม่ๆเชิญ PROS เข้าร่วมประมูลงานมากยิ่งขึ้น” นายเหล่ากอเทพ กล่าว
โดยแนวทางเติบโตในตอน 3 ปีจากนี้ (ปี 2564-2566) บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตเฉลี่ยแล้วปีละ 10-20% โดยจะมาจากงานบริการรับเหมาจัดตั้งงานระบบประกอบตึก รวมทั้งรายได้จากงานให้บริการรับเหมาก่อสร้างงานโยธา คิดเป็นสัดส่วนรายได้รวมกันกว่า 99% ที่เหลือจะเป็นรายได้อื่นๆเวลาเดียวกันบริษัทยังคงย้ำควบคุมรวมทั้งการจัดการจัดการทุนที่ดี เพื่อความสามารถในการทำเงินที่ดี โดยมีเป้าหมายรักษาอัตรากำไรทั้งสิ้น (Net Profit Margin) ให้อยู่ที่ระดับ 6-7% จากปี 2563 ที่มีอัตรากำไรทั้งสิ้นที่ระดับ 5%
นายสำริดชัย ตั้งหะเมือง กรรมการผู้จัดการ บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางด้านการเงิน PROS เผยออกมาว่าคาด PROS จะเป็นหุ้นไอพีโอที่ได้รับความพึงพอใจจากนักลงทุน ด้วยคุณลักษณะเด่นบริษัทฯมีฐานะทางการเงินที่แกร่ง โดยภายหลังจาก IPO คาดอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นจะลดลงเหลือเพียง 0.61เท่าในปี 64 จากปี 63 ก่อน IPO อยู่ที่ 1.18 เท่า มีเงินสดในมือสูง รวมทั้งมีการจ่ายปันผลตลอด โดยมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำยิ่งกว่า 50%
เวลาที่รายได้รวมทั้งกำไรเติบโตแกร่งโดยมีต้นเหตุส่งเสริมจากงานโครงงานในมือที่ยังไม่มอบ ณ วันที่ 15 มี.ค.64 ปริมาณ 768 ล้านบาท รวมทั้งงานที่มีหนังสือบอกเจตนาการว่าว่าจ้าง (LOI) อีกราว 1,229 ล้านบาท ส่งเสริมงานในมือ (Backlog) ในตอนนี้อยู่ราวๆ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขงานในมือตีสถิติใหม่ของบริษัท โดยจะทยอยรับทราบรายได้ออกจะมั่นคงรวมทั้งมีเสถียรภาพ รวมทั้งยังไม่รับรวมโครงงานใหม่ๆที่บริษัทฯ ได้โอกาสเข้าไปร่วมประมูลเพิ่มเติม สำหรับผลงานในปี 2563 ถึงแม้ในเหตุการณ์วัววิด-19 บริษัทฯ ก็สามารถทำเงินสุทธิอยู่ที่ 51 ล้านบาท เติบโตกว่า 86.66% จากปี 2562 ทำให้เห็นว่าบริษัทฯ มีสมรรถนะในการปรับตัวทางธุรกิจให้มีกำไรตลอด ถึงแม้ในภาวะเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงไป ส่วนรายได้อยู่ที่ 944.77 ล้านบาท
นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษา กรรมการผู้จัดการ ข้างวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจำหน่ายรวมทั้งรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ PROS เผยออกมาว่า ความเชื่อมั่นหุ้น PROS ในการเข้าจำหน่ายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันแรก ในวันที่ 27 เม.ย.นี้ นักลงทุนจะสนใจรวมทั้งการตอบรับเป็นอย่างดี จากราคาหุ้น IPO ที่ระดับราคา 2 บาท เป็นราคาที่มีส่วนลดในระดับที่ดีเลิศให้กับนักลงทุน
โดย P/E ของบริษัทฯคาดว่าจะลดลงได้อีกมากมายจากสมรรถนะที่จะเติบโตสะดุดตาตลอด จากงานในมือสูงเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งจากฐานทุนที่แกร่งขึ้น จะก่อให้บริษัทมีความพร้อมเข้าประมูลงานใหม่ๆอีกทั้งภาครัฐรวมทั้งเอกชน รวมทั้งได้โอกาสได้รับงานอีกมากมายในอนาคต ตามการขยายตัวของกรุ๊ปลูกค้าในนานาประการอุตสหกรรมอีกทั้งภาครัฐรวมทั้งเอกชนในประเทศ ประกอบกับการเข้ามาลงบัญชีในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยเพิ่มสมรรถนะในการชิงชัย รวมทั้งเพิ่มโอกาสในการรับงานที่มีมูลค่าสูงขึ้น
ด้านผู้บริหารย้ำความมั่นใจและความเชื่อมั่น กรุ๊ปครอบครัวรัตนแสงสว่างสรวง รวมทั้งผู้ถือหุ้นใหญ่อีก 3 ราย ซึ่งร่วมจัดตั้งบริษัทมาด้วยกัน โดยมีหุ้นส่วนเกิน 50% ติดไซเรนท์พีเรียดและไม่มีนโยบายที่จะขายหุ้นออกไป โดยผู้ถือรายใหญ่ทั้งหมดทั้งปวงให้ความมั่นใจและความเชื่อมั่นนำหุ้นส่วนที่เหลือจากที่ติด Silent มาติด Lock Up ทั้งหมดทั้งปวง